เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่อาจทำให้หลายคนอิจฉาตาร้อนไปตาม ๆ กัน Tribune de Genève สื่อของสวิตเซอร์แลนด์รายงานว่า “นิโคลาส พูช์” (Nicolas Puech) มหาเศรษฐีวัย 80 ปี หลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ “แอร์เมส” (Hermès) กำลังวางแผนที่จะรับคนสวนวัย 51 ปีมาเป็นบุตรบุญธรรม
โดยชายคนดังกล่าวเป็นอดีตคนสวนและช่างซ่อมบำรุงที่มีพื้นเพจากครอบครัวชาวโมร็อกโก แต่งงานกับหญิงชาวสเปนและมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อของเขาออกมาว่าเป็นใคร
“เจมส์ เว็บบ์” เผยภาพ “ซากซูเปอร์โนวาแคสสิโอเปีย” สุดตรึงตรา
กาตาร์โดนจวก ปมส่งเงินช่วยฉนวนกาซา โดยอิสราเอลรู้เห็นเป็นใจด้วย
นักวิทยาศาสตร์ไขปริศนา “ทำไมช้างต้องมีงวง?”
แอร์เมสซึ่งเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1837 นั้น ปัจจุบันแบรนด์ดังกล่าวได้เติบโตขึ้นจนมีมูลค่าประมาณ 2.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.8 ล้านล้านบาท) และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศสที่ใหญ่เป็นอันดับ 3
คาดว่าที่พูช์ต้องรับอดีตคนสวนมาเป็นบุตรบุญธรรมก็เนื่องจากเขาไม่ได้แต่งงานและไม่มีบุตร โดยเขาถือหุ้นในแอร์เมสอยู่ประมาณ 5-6% มูลค่าอยู่ที่ระหว่าง 1.03 หมื่นล้านถึง 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.6-4 แสนล้านบาท)
Tribune de Genève รายงานว่า ขณะนี้มหาเศรษฐีรายนี้อยู่ในกระบวนการส่งต่อความมั่งคั่งให้กับอดีตคนสวนของเขา และได้จ้างทีมกฎหมายแล้วด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พูช์ได้มอบกุญแจบ้านในมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก และวิลล่าในเมืองมงโทรซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้กับอดีตคนสวนวัย 51 ปีแล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 5.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 209 ล้านบาท)คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อีกปัจจัยที่ทำให้พูช์ตัดสินใจรับบุตรบุญธรรมทั้งที่ก็ยังมีญาติ ๆ เหลืออยู่คาดว่าเกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2014
ในปีนั้น คู่แข่งด้านแฟชั่นอย่างหลุยส์ วิตตอง (LVMH) ได้เข้าซื้อหุ้นของแอร์เมสไปได้ถึง 23% ซึ่งเป็นความพยายามในการเทกโอเวอร์กิจการของแอร์เมส โดยสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ ได้นำหุ้นมารวมกันและร่วมกันจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการเทคโอเวอร์ของหลุยส์ วิตตอง แต่พูช์ตัดสินใจที่จะถือหุ้นของตนไว้ และลาออกจากคณะกรรมการบริษัท
แม้หลุยส์ วิตติง จะตกลงขายหุ้นคืนในเวลาต่อมา และตกลงที่จะไม่ซื้อหุ้นแอร์เมสอีกต่อไปเป็นเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตาม ความบาดหมางดังกล่าวดูเหมือนจะก่อให้เกิดบาดแผลที่ไม่อาจแก้ไขได้ระหว่างพูช์และสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ของเขา
โฆษกของพูช์กล่าวว่า “เขาลาออกเพราะเขารู้สึกว่าถูกสมาชิกในครอบครัวกดดันมาหลายปีแล้ว ซึ่งโจมตีเขาจากหลายด้าน ไม่เพียงแต่ประเด็นที่เกี่ยวกับหลุยส์ วิตตอง เท่านั้น … เขามีประสบการณ์ที่เลวร้าย เขารู้สึกแย่มาก และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงหลายครั้ง แม้ว่าเขาจะผูกพันกับแอร์เมสก็ตาม”
อย่างไรก็ตาม การรับบุตรบุญะรรมครั้งนี้อาจไม่สะดวกราบรื่นนัก เพราะการรับผู้ใหญ่เป็นบุตรบุญธรรมนั้นหาได้ยากมาก และข้อกำหนดในการดำเนินการดังกล่าวในสวิตเซอร์แลนด์นั้นมีความซับซ้อน
มีข้อมูลว่า ตามกฎหมายของเมืองที่พูช์อาศัยอยู่ ผู้ใหญ่จะสามารถรับผู้ใหญ่อีกคนเป้นบุตรบุญธรรมได้ ก็ต่อเมื่อเคยมีประวัติอาศัยร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีเมื่อผู้ถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมยังเป็นผู้เยาว์อยู่
เรียบเรียงจาก Fortune
ภาพจาก Eric PIERMONT / AFP
หลุดแชทเด็ก 17 ปี เรียกเพื่อนมารับหลังรู้ตัวถูก “สมรักษ์” พามาโรงแรม
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566
กู้ภัยระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายในทะเลหาดจอมเทียน ยังไม่ชัดมีกี่คน